คุณสมบัติโดดเด่นของทองคำนั้น งดงามแวววาว มีความคงทน น้ำ ความชื้นไม่อาจทำให้เกิดการผุกร่อนแตกต่างกับโลหะชนิดดื่น เปลวไฟร้อนๆ อาจจะแปรสภาพทองคำกลายเป็นของเหลวชั่วขณะ แต่จะไม่ทำให้แร่โลหะชนิดนี้สูญหายจากโลกนี้
กระนั้น หลายท่านสงสัย ทำไมซื้อออกจากร้าน และภายหลังใส่เล่น ใส่โชว์ ทองคำหมองคล้ำ ไม่เงาแวววาวเหมือนเดิม หรือเกิดความเสียหายบุบเบี้ยวไม่ได้รูปทรง
คำตอบ ความสดใสสวยงามลดลง ส่วนหนึ่งเพราะไขมันเครื่องสำอาง และคราบไคลจากร่างกายมนุษย์ ประกอบกับทองคำนั้น ถึงจะคงทน แต่แท้จริงคือโลหะเนื้ออ่อน ทำให้เกิดความชำรุดเสียหายได้โดยง่าย ตรงนี้แก้ไขป้องกันได้ โดยมี 7 วิธีทําความสะอาดทอง ดังนี้
7 วิธีทําความสะอาดทอง มีอะไรบ้าง
ถอดทองก่อนอาบน้ำหรือซักผ้า
สบู่ คลอรีน น้ำร้อน คือตัวการสำคัญทำให้ทองคำหมองคล้ำ ดังนั้น อาบน้ำ ชำระร่างกาย ว่ายน้ำ หรือแช่อ่างน้ำร้อนออนเซน เครื่องประดับทองคำ ไม่ว่าสร้อยคอ แหวน ต่างหู และกำไล ต้องถอดออกก่อนทำกิจกรรมเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น
เช่นเดียวกับน้ำยาฟอกขาว สารเคมีกำจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าอย่างชื่อใช้ในการค้า เช่น ไฮเตอร์ และ ไฮยีน เบเดียม เบต้าไบซัลไฟล์ สารเคมีกำจัดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัสสำหรับเสื้อผ้า หรือสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ เหล่านี้สามารถทำลายความงดงามของทองคำด้วยกันทั้งสิ้น
ดังนั้นถ้าต้องซักผ้า ทำความสะอาดเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ และสถานที่ โดยใช้สารเคมีเหล่านี้ ควรถอดเครื่องประดับทองคำออกก่อน กรณีไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือเครื่องประดับทองคำถูกสารเคมีเหล่านี้โดยไม่ได้ระวัง ให้นำทองคำนั้นล้างน้ำสะอาดทันที
เลี่ยงการสัมผัสโลชั่นและน้ำหอม
สอง โลชั่นบำรุงผิว สเปรย์ระงับกลิ่นกาย และน้ำหอม มีส่วนประกอบของสารเคมีทำปฏิกิริยากับทองคำ ดังนั้นถ้าต้องใช้สิ่งเหล่านี้กับเรือนร่าง หลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสหรือโดนเครื่องประดับทองคำโดยตรง
เลี่ยงการเก็บรักษาทองร่วมกับเครื่องประดับอื่น
สาม ทองคำ 99.99% หรือทองคำ 96.5% โดยเฉพาะทองรูปพรรณ ควรหลีกเลี่ยงเก็บรักษารวมกับเครื่องประดับหรือสิ่งของโลหะอื่น เช่น เหรียญกษาปณ์ เข็ม เข็มกลัด ลวดหนีบกระดาษ และกรรไกร กระทั่งถอดออกวางกับโต๊ะ ใส่ในชั้นตู้นิรภัย ต้องมีผ้ากำมะหยี่ ถุงผ้า ผ้านุ่มๆ รองรับ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เครื่องประดับทองคำเกิดริ้วรอยขีดข่วน
อย่าถอดเครื่องประดับวางไว้บนโต๊ะทำงาน
สี่ ระหว่างทำงาน ควรหลีกเลี่ยงถอดเครื่องประดับทองคำวางบนโต๊ะทำงาน เพราะอาจจะพลั้งเผลอนำหนังสือ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สำนักงานวางทับอย่างไม่รู้ตัว ทำให้ทองคำเกิดความเสียหาย บุบ และเสียรูปทรง
เลี่ยงการใส่ทองเมื่อออกโดนแดดนานๆ
ห้า การสวมใส่เครื่องประดับทองคำกับร่างกายเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวันที่ต้องประกอบภารกิจ กิจกรรมชีวิตประจำวันที่โล่งแจ้ง เผชิญแสงแดด เหงื่อและการเสียดสีกับเรือนร่าง มีส่วนต่อการทำลาย เสียดสี และกัดกร่อนทองคำ อาจจะส่งผลให้น้ำหนักทองคำลดลง
ระวังกิจกรรมที่อาจกระทบกระแทก
หก ทองรูปพรรณลวดลายโปร่ง บุบ บิดเบี้ยวและเสียรูปทรงได้โดยง่าย ควรหลีกเลี่ยงสวมใส่กับกิจกรรมในใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องเสี่ยงกับการกระทบ กระแทก เดินชน ไม่ว่าผู้คน สถานที่หรือกับสิ่งของ เพราะนอกจากส่งผลต่อความสวยงามแล้ว อาจจะทำให้ราคาขายลดลงตามสภาพอีกด้วย
หมั่นดูแลความสะอาดเป็นประจำ
เจ็ด ทองรูปพรรณที่ประกอบด้วยอัญมณีอื่นๆ เช่น แหวนทองหัวเพชร และแหวนทองหัวพลอย หรือทองรูปพรรณมากรายละเอียด ควรต้องดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ ถ้าทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจดูแล ความเป็นกรดจากคราบไคลจากร่างกายอาจจะทำให้ทองคำนั้น หมองคล้ำ และไม่เหลือความงดงาม
ล้างทองด้วยซันไลต์ หรือน้ำยาล้างจาน
แปด ล้างทองด้วยซันไลต์ หรือน้ำยาล้างจาน ให้ใช้น้ำยาล้างจาน แนะนำชนิดสารสกัดธรรมชาติ ผสมน้ำสะอาด และใช้ฟองน้ำเนื้อนุ่ม ขัดล้างเบา ๆ ก่อนออกด้วยน้ำสะอาดด้วยการเปิดน้ำก็อก หรือทำให้น้ำสะอาดไหลผ่านเครื่องประดับทองคำนั้น วิธีนี้จะช่วยกำจัดคราบไคล ไขมันเครื่องสำอาง และทำลายความหมองคล้ำหมดออกไปได้โดยง่าย
หรือ ล้างทองด้วยมะนาว โดยใช้น้ำมะนาว แนะนำบีบจากผลมะนาวสด ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมะนาวสำเร็จหรือน้ำมะนาวขวด เพราะอาจมีส่วนผสมเคมีภัณฑ์และสารสกัดอื่น จะทำปฏิกิริยาทำลายเนื้อทองคำ
บีบน้ำมะนาวใส่ภาชนะ นำทองคำแช่หนึ่งคืน หรือประมาณ 12 ชั่วโมง ก่อนทำความสะอาดด้วยน้ำ เช็ดด้วยผ้าสะอาด โรยแป้งเด็ก แล้วเป่าลมเพื่อไล่ละอองแป้งที่อาจจะซุกซ่อนตามจุดต่างๆ ของเครื่องประดับทองคำ วิธีนี้จะทำให้เครื่องประดับทองคำกลับมาแวววาวเหมือนใหม่
กับอีกวิธีหนึ่ง นำมะขามเปียกคั้นด้วยน้ำอุ่น โดยให้ใช้น้ำมะขามเปียกแบบเข้มข้น หลังจากนั้นนำเครื่องประดับทองคำแช่ประมาณ 10 นาที แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำ เช็ดหรือซับด้วยผ้านุ่มไม่มีขน เครื่องประดับทองคำก็จะกลับมางดงามเหมือนใหม่ภายในเวลารวดเร็ว