ทองคำ ธาตุลำดับ 79 ในตารางธาตุ รหัสสัญลักษณ์คือ Au คงคุณสมบัติมหัศจรรย์ คือไม่เป็นสนิม สีเหลืองสว่างสวยงาม เนื้ออ่อนและเหนียว ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เป็นส่วนประกอบเหนี่ยวนำไฟฟ้า ภายในเครื่องใช้อิเล็อทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่
และสำคัญ ทำเครื่องประดับโดยได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไล และต่างหู แต่ด้วยเหตุที่ว่าเนื้ออ่อนและขึ้นรูปยาก เลยต้องนำโลหะชนิดอื่นผสม ได้แก่ เงิน ทองแดง และอื่นๆ ร้อยละ 3.5 ทองคำชนิดนี้เป็นที่นิยมกันมากในประเทศไทย เรียกว่า ทองคำ 96.5 จะคงทนมากกว่าทองคำในตลาดโลก คือ ทองคำ 99.99
แต่กระนั้น เมื่อนำไปใช้ประกอบเครื่องประดับต่างๆ เช่น แหวนทองหัวเพชร และสร้อยเพชร ภายหลังใช้งานมักเกิดความเสียหาย บิดเบี้ยว และไม่ได้รูป เป็นเหตุให้เพชรหรืออัญมณีหลุดหายไปได้ในที่สุด จึงต้องนำโลหะชนิดอื่นผสมกับทองคำมากขึ้น เพื่อเพิ่มความคงทน และเรียกว่ากันว่า “ทองเค” แบ่งออกหลายระดับ ได้รับความนิยมตามภูมิภาคต่าง ทั่วโลก ดังนี้
เริ่มด้วยทองคำ 8K ประกอบด้วย เนื้อทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 33.33 ส่วนที่เหลือเป็นโลหะชนิดอื่น ทองคำชนิดนี้สีเหลืองซีดเกือบน้ำตาล ได้รับความนิยมในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) โดยเฉพาะในเยอรมนี กรีซ และอิตาลี
ทองคำ 9K ประกอบด้วย เนื้อทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 37.50 ส่วนที่เหลือเป็นโลหะชนิดอื่น ทองคำชนิดนี้มีสีเหลืองผสมเขียว ถ้าอยู่ภายในอาคารที่ร่มจะเป็นสีเหลือง แต่ถ้าออกที่โล่งแจ้งสัมผัสแสงจะออกสีเขียว เป็นที่นิยมและยอมรับฟากฝั่งประเทศอังกฤษ
ทองคำ 10K เนื้อทองคำบริสุทธิ์เป็นส่วนประกอบหลัก ร้อยละ 41.67 ส่วนที่เหลือคือโลหะชนิดอื่น ทองคำชนิดนี้สีเหลืองสว่างกว่าสองชนิดข้างต้นเล็กน้อย โดยได้รับความนิยมแถบประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ เช่น เม็กซิโก และคิวบา
ทองคำ 12K เนื้อทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 50 สีเหลืองใกล้เคียงกับทองแดง นิยมนำทำตัวเรือน และสายนาฬิกามากกว่าเป็นทองรูปพรรณ โดยเฉพาะรูปแบบ 2 กษัตริย์ คือสอดผสมระหว่างทองคำและทองคำขาว โดยได้รับความนิยมทั่วไปในทุกมุมโลก
ทองคำ 14K ประกอบด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 58.33 ที่เหลือผสมด้วยโลหะชนิดอื่น โทนสีเหลือง โดยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ อังกฤษ เยอรมัน กระทั่งสหรัฐอเมริกา
ทองคำ 18K โลหะชนิดนี้ประกอบด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 75 และผสมด้วยโลหะชนิดอื่นส่วนที่เหลือ โทนสีเหลือง ได้รับความนิยมดินแดนแห่งแฟชั่น ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย
ทองคำ 21K ทองคำชนิดนี้สีเหลืองทองสดใส ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน อิรัก ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทองคำชนิดนี้ ประกอบด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์ร้อยละ 87.50 ส่วนที่เหลือผสมด้วยโลหะชนิดอื่น
ทองคำ 22K ทองคำชนิดนี้ ประกอบด้วยเนื้อทองบริสุทธิ์ ร้อยละ 91.70 ที่เหลือผสมทองแดง และอื่นๆ โทนสีเหลืองทอง ได้รับความนิยมประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และประเทศตะวันออกกลาง
ทองคำ 23.16K ทองคำชนิดนี้ ก็คือ ทองคำ 96.50 นั่นคือผสมด้วยโลหะอื่นๆ เพื่อการ
คงรูปร้อยละ 3.50 โดยได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และมีหน่วยวัดเป็นบาท เทียบเท่ากับน้ำหนักมาตรฐานตลาดโลกเท่ากับ 15.244 กรัมสำหรับทองแท่ง และ 15.16 กรัมสำหรับทองรูปพรรณ
และสุดท้าย ทองคำ 24K ประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 99.99 – 100 สีทอง เป็นที่นิยมเกาหลี ฮ่องกง อินโดนีเซีย และสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับประเทศไทย ทองคำ 99.99 ที่รู้จักและได้รับการยอมรับ คือ “ทองคำสุโขทัย” สร้างสรรค์การผลิตงานโดยใช้แรงงานฝีมือ ลวดลายละเอียดคงเอกลักษณ์ครบถ้วนของพื้นถิ่น โดยได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวางกระทั่งทุกวันนี้
ดังนั้น ทองเค ก็คือการผสมระหว่างทองคำบริสุทธิ์ กับโลหะชนิดอื่นๆ ตัวเลขเคมาก หมายถึง ทองคำบริสุทธิ์มาก ดังกล่าวข้างต้น สูงสุดคือทองคำ 24เค และต่ำสุด ณ ปัจจุบัน คือทองคำ 8เค
ทองเค ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย นอกเหนือจากทองคำ 96.50 หรือ 23เค ก็คือทองคำ 18เค โดยทอง 18เค นั้น ถ้าผลิตตามมาตรฐาน คุณภาพตรงตามข้อกำหนดสามารถนำมาซื้อขาย จำนำ เฉกเช่นเดียวกับทองคำ 23เค และ 24เค
ทั้งนี้ขึ้นกับแนวทางผู้ค้าทองคำ และโรงรับจำนำแต่ละแห่ง
สำหรับคำว่า เค ย่อมาจาก กะรัต ถือเป็นหน่วยวัดชั่งเพชรพลอย และทองคำ
ตามมาตรฐานระดับโลก ทองเค หรือมาตรวัดสำหรับทองคำ ใช้อักษร K คือ Karat
ส่วนเพชรและพลอย ใช้อักษร C คือ Carat อ่านว่า กะรัต เช่นกัน